About Me

My photo
ร้านค้าปลีก ~เจ้าป้าช็อป~ จำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทุกเพศทุกวัย

Sunday, April 28, 2013

อันตรายของชุดชั้นในแบบโครงลวด


อันตรายของชุดชั้นในแบบโครงลวด



 สำหรับสาวที่พิสมัยการมีหน้าอกที่เต่งตึงได้รูป และไม่หย่อนคล้อย หลายคนหันหน้าเข้าหาชุดชั้นในแบบที่มีโครงลวด เพื่อปรับทรงหน้าอกให้สวยงามตามต้องการ ขอเตือนว่า อันตรายจากชุดชั้นในชนิดนี้มิได้มีเพียงแค่อาการเจ็บจากการถูกกดรัดเท่านั้น ยังมีอันตรายในแบบอื่น ๆ ที่มีผลต่อสุขภาพของคุณโดยตรงอีกด้วย


     ดังนั้น...มาดูกันซิว่า เพื่อให้หน้าอกของคุณสวย คุณต้องแลกกับอะไรกันบ้าง

   1. ด้วยการบีบรัดของชุดชั้นในชนิดนี้ ทำให้ระบบย่อยอาหารของคุณมีปัญหา เมื่อทานอาหารเข้าไป การบีบรัดที่มีผลทำให้หลอดอาหารตีบก็จะทำให้คุณกลืนอาหารลำบาก และอาหารก็ไม่สามารถย่อยได้ง่ายตามที่มันควรจะเป็น

    2. ด้วยการบีบรัดของชุดชั้นในชนิดนี้ ทำให้ร่างกายทำการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ซึ่งส่งผลให้คุณสูญเสียพลังงานอย่างรวดเร็ว จะเหนื่อยง่ายและรู้สึกไม่มีแรง

    3. ด้วยการบีบรัดของชุดชั้นในชนิดนี้ ทำให้โครงลวดนั้นขัดขวางการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับสารพิษในเต้านม

    4. ด้วยการบีบรัดของชุดชั้นในชนิดนี้ ทำให้การเคลื่อนไหวของซี่โครงและกระบังลมมีปัญหาส่งผลทำให้คุณหายใจหอบอยู่บ่อยครั้ง และสมรรถภาพของหัวใจกับปอดจะเสื่อมลงอย่างช้าๆ

อันตรายจากการเลือกชุดชั้นในผิดวิธี


คุณผู้หญิงหลายๆคนมีพฤติกรรมในการเลือกชุดชั้นในแบบนี้  ทำให้มีผลกระทบตามมาต่อสุขภาพ  ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำแล้วส่งผลให้สุขภาพโดยรวมแย่ลง

      1. สายบราที่รัดตึงเกินไปจะทำให้ปวดศีรษะ ไหล่ หลัง คอ และเป็นจุดเริ่มต้นของการปวดหัวเรื้อรัง หรือไมเกรน เนื่องจากกล้ามเนื้อช่วงไหล่ถูกดึงรั้ง จนเลือดบริเวณนั้นไหลเวียนไม่สะดวก

      2. บราไซส์เล็กเกินไป ทำให้เกิดภาวะเครียดต่อระบบกล้ามเนื้อระบบหายใจ และระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เหนื่อยง่าย บางรายมีอาการเจ็บหน้าอกเรื้อรัง

      3. จากการศึกษาเรื่อง Bra and Breast Cancer Study ที่สหรัฐอเมริกา พบว่าการใส่บราที่รัดแน่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม เพราะแรงกดทำให้เกิดการคั่งของเลือดและน้ำเหลือง และเกิดเป็นก้อนเนื้อที่บริเวณหน้าอก ซึ่งอาจกลายเป็นเนื้อร้ายในเวลาต่อมา

      4. ควรเลือกขนาดของบราให้เหมาะสมกับบรากาวที่เสริมเข้าไป ก่อนใช้ควรทำความสะอาดผิวบริเวณที่สวมใส่ให้แห้ง และไม่ควรทาโลชั่น น้ำหอม แป้ง หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใด ๆ ถึงแม้ศูนย์ Women’s Health Boutique สหรัฐอเมริกา เชื่อว่าการใช้บรากาวปลอดภัยและไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ แต่ถ้าเกิดการระคายเคืองหรือคันบริเวณเต้านม ควรให้เลิกใช้ทันที หลังใช้ควรทำความสะอาดบราด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำอุ่น ใช้ผ้าซับน้ำ ด้านที่เป็นกาว นำไปผึ่งในที่ร่มจนแห้งสนิท แล้วจึงเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ

      5. การสวมสเตย์รัดหน้าท้องนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อหลังไม่แข็งแรงปวดหลังเป็นประจำ หรือปวดหลังเรื้อรัง เวลานั่ง ยืน หรือเดินอวัยวะภายในช่องท้องทำงานได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากแรงบีบรัดของสเตย์ อวัยวะที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กระเพาะอาหาร ลำไส้ ระบบขับถ่ายที่ทำให้ท้องผูก ระบบกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนเลือดอุดตัน ทำให้เกิดความเครียด ระบบย่อยอาหารที่เป็นอุปสรรคต่อการย่อย จนเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบหรือเป็นแผล

       6. การใส่จีสตริงที่มีขนาดเล็ก หรือสายรัดตึงเกินไป ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อบริเวณง่ามก้น หรือเกิดการเสียดสีจนอาจเป็นแผลผิวหนังถลอก หรืออักเสบที่บริเวณอวัยวะเพศหรือทวารหนักได้ หากรักษาความสะอาดไม่ดีพอ สายของจีสตริงจะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียบริเวณรอบทวารหนักชื่อ Gardinerella Vaginalis เป็นเหตุให้แบคทีเรียดังกล่าวแพร่เข้าสู่ช่องคลอด เกิดปัญหาการติดเชื้อ มีอาการตกขาว กลิ่นเหม็น และคันที่บริเวณอวัยวะเพศ

     7. อย่าใส่ซ้ำ หรือรีบเปลี่ยนชุดชั้นในที่อับชื้นทันที เพื่อป้องกันการติดเชื้อและราที่อาจทำให้เกิดโรคผื่นคันหรือสังคัง ซึ่งเกิดได้ทั้งในผิวหนังบริเวณเร้นลับทั้งของผู้ชายและผู้หญิง สาเหตุของสังคังเกิดจากเชื้อราลุกลามเป็นวงกว้าง ในเซลล์ที่ตายแล้วบริเวณขาหนีบซึ่งเป็นมุมอับ เมื่ออากาศระบายเข้า-ออกไม่ดีทำให้เกิดการหมักหมม เมื่อรู้ตัวว่าเริ่มมีอาการคันบริเวณขาหนีบ ให้รีบไปหาหมอเพื่อทำการรักษา การป้องกัน และการรักษาที่ดีที่สุดคือ รักษาความสะอาดของร่างกายโดยอาบน้ำทุกวัน วันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย หลังอาบน้ำเสร็จแล้วเช็ดตัวให้แห้ง อย่าให้ร่างกายมีความอับชื้นโดยเฉพาะที่ขาหนีบ

       8. ควรหมั่นทำความสะอาดชุดชั้นในให้ปลอดเชื้อราเสมอ ๆ เริ่มจากแยกชุดชั้นในออกจากชุดชั้นนอกและแยกสีเข้ม สีอ่อน ซักด้วยน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกละลายในน้ำธรรมดา ไม่ควรใช้สารฟอกขาวทุกชนิด ไม่ควรขยี้หรือใช้แปรงขัดชุดชั้นในแรง ๆ (โดยเฉพาะยกทรง) เพราะจะทำให้เสียรูปทรงได้ง่าย ในบริเวณที่มีคราบสกปรกให้ใช้แปรงขนนุ่ม ๆ ถูเบาๆ ให้สะอาด จากนั้นให้ล้างชุดชั้นในด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง ไม่ควรบิดยกทรงโดยเฉพาะแบบมีโครง ควรบีบเบา ๆ เพื่อให้น้ำออก ตากในที่ร่ม มีลมโกรก ไม่ควรตากชุดชั้นในทุกชนิดให้ถูกแสงแดดโดยตรงเพราะจะทำให้เนื้อผ้าและสีเสื่อมสภาพเร็ว

เสื้อชั้นใน มีเทคนิคการเลือกซื้อยังไง?!!




ใครที่กำลังจะซื้อเสื้อชั้นในใหม่ วันนี้เรามีเคล็ดลับในการเลือกซื้อมาฝาก…




………..ลองเสื้อชั้นในก่อนซื้อทุกครั้ง เลือกตัวที่กระชับพอดี และ อย่าซื้อเสื้อชั้นในเพียงบอกไซส์ เพราะแต่ละแบบ แต่ละทรง จะออกแบบมาไม่เท่ากัน หรือไม่เหมาะกับทุกคน

+ การเลือกซื้อเสื้อชั้นในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือน อาจจะได้ขนาดที่ใหญ่กว่าปกติ
+ เสื้อชั้นในที่พอดี ระดับตะขอ (หลัง) ควรอยู่ใต้กระดูกสะบักหลัง ถ้าสูงหรือต่ำลงมาควรเลือกขนาดใหม่
+ หากสวมเสื้อชั้นในแล้วไม่สามารถสอดนิ้วเข้าไปในร่องอกได้ แสดงว่าเสื้อตัวนั้นคับเกินไป
+ หากมีรอบอกระหว่าง 34-48 นิ้ว ควรเลือกซื้อชนิดที่มีฐานใต้โครงอก และเสื้อชั้นในแบบตะขอหน้า จะทำให้หน้าอกได้รูปสวย
+ สุดท้ายเลือกเสื้อชั้นในที่มีเนื้อนุ่ม ยืดหยุ่นสบาย

…………ครั้งหน้าถ้าจะซื้อเสื้อชั้นใหม่ อย่าลืมนำวิธีที่แนะนำไปเลือกซื้อเสื้อชั้นในให้ถูกใจกันได้

ขอบคุณที่มาบทความจาก  www.healthcorners.com

Saturday, April 27, 2013

เลือก “บรา” ให้เหมาะกับทรง


     นอกเหนือจากเรื่องเสื้อผ้าแฟชั่น ที่สาวๆ ทั้งหลายสนุกกับการเลือกซื้อเลือกใส่กันอย่างไม่ยอมตกเทรนด์แล้ว แฟชั่น "บรา" สวยๆ เสน่ห์ของความ เซ็กซี่ที่ซ่อนอยู่ภายในก็เป็นแฟชั่นอีกอย่างหนึ่งที่สาวๆ ยุคนี้เค้าให้ความสำคัญ

      จะว่าไปเรื่องของ “ชุดชั้นใน” นี่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการแต่งกายให้ดูดีเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะว่าดีไซน์ของเสื้อผ้าสมัยนี้ เค้ามักจะออกแบบมา ให้เน้นสัดส่วนของเรามากขึ้น ไม่ออกแบบให้เข้ารูปก็ออกแบบมาให้เราเผยผิววับแวมกันเป็นส่วนๆ เช่น เสื้อเว้าหน้า – เว้าหลัง , คอกว้าง , คว้านลึก ฯลฯ และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงที่ทำให้สาวๆ ให้ความสำคัญกับ “บรา” กันมากกว่าแต่ก่อนเพื่อให้สามารถสวมใส่เสื้อผ้าชั้นนอกได้สวยและมั่นใจ

     แต่เพราะ “บรา” ในแต่ละแบบได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ “ทรง” ที่มีลักษณะแตกต่างกันของแต่ละคน ฉะนั้น การตัดสินใจเลือกซื้อบราในแต่ ละครั้งนั้น จึงไม่ใช่แค่เพียง "แบบ" หรือ “สี” ที่ถูกใจเพียงอย่างเดียวแล้วล่ะค่ะ

คัพ & ไซส์ 
     การเลือกซื้อหรือใส่บราที่ถูกต้อง เราควรรู้ขนาดของ คัพ (เนื้อรอบเต้านม) และ ไซส์ (ขนาดรอบตัว) ของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก มีวิธีการ คำนวณหา คัพ และ ไซส์ ของหน้าอกมาฝากกันดังนี้ค่ะ

วิธีการวัด
     1.ใส่บราที่มีขนาดพอดีกับหน้าอก
     2. Point 1: ใช้สายวัด วัดรอบหน้าอกช่วงที่กว้างที่สุด หรือ ปลายหัวนม หน่วยเป็นนิ้ว (inch)
     3. Point 2: ใช้สายวัด วัดรอบใต้อก หน่วยเป็นนิ้ว (inch)


วิธีคำนวณ
     1. นำค่าวัดรอบหน้าอก หักลบ ค่าวัดรอบใต้อก แล้วเทียบดูข้อมูลนี้
            1 inch = A cup
            2 inches = B cup
            3 inches = C cup
            4 inches = D cup
            5 inches = DD cup
            6 inches = E cup or DDD cup
            7 inches = F cup or DDDD cup
            8 inches = FF cup
            9 inches = G cup


2. นำค่าวัดรอบใต้อก บวก +5 จะได้ค่าขนาดของบรา
         ตัวอย่าง
                  วัดรอบหน้าอก 30 นิ้ว วัดรอบใต้อก 27 นิ้ว
                  30-27 = 3 –> C cup และ 27+5 = 32
                  ดังนั้น เลือกซื้อชุดชั้นในที่มีค่า 32 C cup
                  หรือประมาณ 70-75 Cm (หน่วยเป็นเซ็นติเมตร) นั่นเอง

                   กรณีค่าส่วนต่างเป็นเลขคี่ ให้ปัดขึ้น เนื่องจากขนาดของบรา มีเฉพาะเลขคู่ เช่น 32 C , 34 C , 36 C เป็นต้น

รูปทรงของหน้าอกกับการเลือกซื้อบราที่ถูกต้อง ตรวจสอบดูซิว่าหน้าอกของคุณมีรูปทรงแบบไหน
1.ทรงลูกเกด,เชอรี่ เป็นรูปทรงของเด็กที่เริ่มมีทรงเป็นส่วนใหญ่ ต้องเลือกบราที่ช่วยประคองทรง เช่นเสื้อใน First bra

2.ทรงเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยรุ่น จะมีเนื้อเนินอกน้อย ฐานทรงไม่กว้าง ควรเลือกใส่ บราที่ช่วยเสริม ทรงเพื่อให้ทรงอกดูอวบอิ่ม “รูปทรงแอ๊ปเปิ้ล” จะเป็นทรงที่สวยได้รูปอยู่แล้ว เพราะมีเนื้อเนินอก และเต้าทรง กลมได้รูป ไม่ว่าจะใส่เสื้อในสไตล์ไหนก็ดูสวย เพียงแต่ต้องเลือกให้ตรงขนาดคัพ & ไซส์ของเราแค่นั้นก็พอ

3.ทรงสตรอเบอรี่
 เต้าทรงเริ่มคล้อย ฐานทรงกว้างกว่าแบบเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยสาว ต้องเลือก บราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และโครงต้องมีมีฐานทรงกว้างขึ้นเพื่อเก็บเนื้อ
เต้าทรงได้หมด

4.ทรงลูกแพร์ เต้าทรงเริ่มคล้อยมาก ฐานทรงกว้าง ต้องเลือกบราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และเลือกแบบที่มี ฟังก์ชั่นช่วยเก็บเนื้อทรงด้านข้าง “รูปทรงสัปปะรด” เนื้อเต้าทรงมีมาก ทรงพุ่งชันมาก เลือกเสื้อในแบบ soft bra ไม่มีฟอง และมีโครงเพื่อช่วยประคองทรง

5.สาวอกไข่ดาว หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกน้อย และไม่ค่อยมีความพุ่งชันของเนื้อหน้าอก ควรเลือกใส่เสื้อในที่เสริม ทรง โดยเสริมทั้งโครง เพื่อดันเนื้อใต้อกขึ้น และเสริมทั้งฟองน้ำ เพื่อเพิ่มความพุ่งชันของทรวงอก

6. สาวอกใหญ่ หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกมาก และมีความพุ่งชันของหน้าอกมาก ซึ่งมักจะมีปัญหาตาม ก็คือความ หย่อนคล้อยของหน้าอก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้นควรเลือกบราที่มีโครงช่วยประคองทรงไม่ให้หย่อ นคล้อยโครงต้องกว้างเพื่อรับกับฐานทรง และเก็บเนื้อด้านข้างได้หมดและเลือกเสื้อในที่มีความลึกของทรงพอสมควร เพื่อให้เวลาใส่แล้วเสื้อในไม่กดทรง อาจทำให้ทรงเสียรูปได้ อีกหนึ่งรูปทรงที่คนมีหน้าอกนิยมใส่ คือ เสื้อในแบบ Soft Bra คือไม่เสริมฟอง หรือแบบซีทรูทำให้ทรงดูไม่ใหญ่ขึ้นและไม่ดูเทอะทะและไม่อึดอัด


     รู้จักเลือกซื้อ “บรา” ให้ถูกไซส์ และเหมาะกับรูปทรงของหน้าอกคุณ คำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ สักนิดก่อนตัดสินใจซื้อ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณมี บุคลิกภาพที่ดี แถมยังช่วยให้หน้าอกหน้าใจของคุณยกกระชับได้รูป สวยเริ่ดไปอีกนานเลยค่ะ

    Tips
       - เลือกซื้อ “บรา” ทุกครั้ง ควรลองก่อนให้แน่ใจมากที่สุดว่าใส่แล้วสบายและพอดีกับหน้าอก เพราะถ้าไม่เลือกลองให้ดีอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว พลอยเสียบุคลิกเอาได้ง่ายๆ
       - การสวมใส่ “บรา” ในท่าที่ถูกต้อง ควรก้มลงแล้วสวมบรา เกี่ยวตะขอให้เสร็จเรียบร้อยก่อนยืดตัวตรงตามปกติ วิธีนี้จะช่วยเก็บทรงให้เข้ารูป ได้ดีที่สุดค่ะ