Alloy Steel | เหล็กพิเศษที่มีส่วนผสมของอัลลอยด์ |
Annealing | การอบเหล็กให้อ่อน เพื่อลดความแข็งและความเปราะลง ง่ายต่อการกลึง |
Carburizing | การชุบผิวแข็งโดยการเติมคาร์บอน ลงไปที่ผิวเหล็ก ทำให้เหล็กมีความแข็งเพิ่มขึ้นเฉพาะส่วนผิวเท่านั้น ส่วนความแข็งของเนื้อเหล็กภายในยังเหมือนเดิม |
Cold Drawn Steel | เหล็กที่ได้จากการรีดเย็น ทำให้ผิวของเหล็กมีสีขาว (เช่น เหล็ก S50C ผิวขาว) |
Elongation | การใช้แรงดึงโลหะให้ยืดตัว |
Flame-hardening Steel | เหล็กที่ชุบแข็งโดยเปลวไฟ |
Hardness | ความแข็ง |
Heat Treatment | การอบชุบ (เป็นความหมายรวมถึง การชุบแข็ง การอบอ่อน หรือกระบวนการอื่น ๆ ที่มีการให้ความร้อนกับเหล็ก) |
Hot Rolled Steel | เหล็กที่ได้จากการรีดร้อนโดยตรง ดังนั้นในการการกลึงจะแข็งกว่าเหล็กที่ผ่านการ Normalizing หรือเหล็กที่ผ่านการ Annealing |
Induction | การชุบแข็งโดยใช้คลื่นความถี่สูงผ่านขดลวดที่อุณหภูมิ 900 องศาเซลเซียส เพื่อชุบแข็งที่ผิว โดยความลึกจะขึ้นอยู่กับความร้อนที่ผ่านขดลวด |
Nitriding | การชุบผิวแข็งโดยการเติม ไนโตรเจนลงไปที่ผิวเหล็ก ทำให้เหล็กมีความแข็งเพิ่มขึ้นเฉพาะส่วนผิวเท่านั้น ส่วนความแข็งของเนื้อเหล็กภายในยังเหมือนเดิม |
Normalizing | การอบให้เหล็กมีเนื้อเหล็ก (grain) และความแข็งสม่ำเสมอทั่วทั้งเส้น ง่ายต่อการกลึง |
Pre-hardened Steel | เหล็กที่ชุบแข็งเรียบร้อยแล้วจากโรงงานที่ผลิต |
Press Die | แม่พิมพ์อัด |
Punching Die | แม่พิมพ์ตัดกระแทก |
Rough Turned Steel | เหล็กที่มีการกลึงผิวแล้ว |
Strength | ความแข็งแรง |
Stress Relieve | การอบให้คลายความเค้น |
Toughness | ความเหนียว |
Vacuum Heat Treatment | การชุบโดยใช้เตาสุญญากาศ แบ่งเป็น การชุบน้ำมัน (Oil quenching) และการชุบแก็ส (Gas quenching) |
Wear Resistance | ความทนต่อการสึกหรอ |
About Me
Wednesday, July 27, 2011
คำศัพท์เกี่ยวกับเหล็กที่น่ารู้
สูตรการคำนวณน้ำหนักเหล็กโดยประมาณ
เส้นผ่าศูนย์กลาง (ซม.) x เส้นผ่าศูนย์กลาง (ซม.) x ความยาว (ซม.) x 0.0062 = น้ำหนัก (กก.)
ขนาด (ซม.) x ขนาด (ซม.) x ความยาว (ซม.) x 0.0079 = น้ำหนัก (กก.)
ขนาด (ซม.) x ขนาด (ซม.) x ความยาว (ซม.) x 0.0068 = น้ำหนัก (กก.)
ขนาด (ซม.) x ขนาด (ซม.) x ความยาว (ซม.) x 0.0065 = น้ำหนัก (กก.)
ความหนา (ซม.) x ความกว้าง (ซม.) x ความยาว (ซม.) x 0.0079 = น้ำหนัก (กก.)
ความหนา (มม.) x ความกว้าง (ฟุต) x ความยาว (ฟุต) x 0.7293 = น้ำหนัก (กก.)
ตารางเทียบเกรดเหล็ก
ประเภทเหล็ก | JIS | AISI | DIN | AICHI | DAIDO | HITACHI | NIPPON KOSHUHA | ASSAB | BOHLER | THYSSEN |
เหล็กกล้างานเย็น | SKD11 | D2 | 1.2379 | AUD11 | DC53 | SLD2 | SKD11V | XW41 | K110 | 2379 |
SKS3 | O1 | 1.2510 | SKS3 | GOA | SGT | KS3 | DF2 | K460 | 2510 | |
เหล็กกล้างานร้อน | SKD61 | H13 | 1.2344 | AUD61 | DHA1 | DAC | KDA1 | 8407 | W302 | 2344 |
SKT4 | L6 | 1.2714 | SKT4A | GFA | DM | KTV | SOMDIE | W500 | 2714 | |
เหล็กชุบแข็ง ด้วยเปลวไฟ | - | - | - | SX105V | GO5 | HMD5 | FH-5 | - | - | - |
เหล็กทำแม่พิมพ์ พลาสติก | - | P20 | 1.2311 | - | PX4 | - | PLASMOLD20 | 718 | W330 | 2311 |
- | P20+5 | 1.2312 | - | NAK80 | - | - | HOLDAX | M200 | 2312 | |
เหล็กอะไหล่ | S45C | 1045 | 1.1191 | S45C | S45C | S45C | S45C | - | - | CK45 |
S50C | 1050 | 1.1206 | S50C | S50C | S50C | S50C | 760 | CM50 | 1730 | |
SCM440 | 4140 | 1.7225 | SCM440 | SCM440 | SCM440 | SCM440 | 709 | V320 | 7225 | |
SNCM439 | 4340 | 1.6582 | SNCM439 | SNCM439 | SNCM439 | SNCM439 | 705 | V155 | 6582 | |
เหล็กชุบผิวแข็ง โดยเติมคาร์บอน | SCM415 | 5115 | 1.7262 | SCM415 | SCM415 | SCM415 | SCM415 | - | - | - |
เหล็กเครื่องมือ คาร์บอนสูง | SK5 | W1 | 1.1625 | SK5 | SK5 | - | - | K100 | K980 | 1545 |
เหล็กเหนียว | SS400 | - | - | SS400 | SS400 | SS400 | SS400 | - | MS | - |
ตารางเทียบความแข็งเหล็ก
HB Brinell Hardness 10mm load 3000kg Standard ball | HRC Rockwell Hardness C Scale load 150kgf Diamond Penetrator | HV Vickers Hardness | HS Shore Hardness | Tensile Strength N/mm2 (kgf/mm2) Approximate value |
| - | 52.5 | 553 | - | 1912 (195) |
| - | 52.1 | 547 | 70 | 1893 (193) |
| 495 | 51.6 | 539 | - | 1853 (189) |
| - | 51.1 | 530 | - | 1824 (186) |
| - | 51.0 | 528 | 68 | 1824 (186) |
| 477 | 50.3 | 516 | - | 1775 (181) |
| - | 49.6 | 508 | 66 | 1736 (177) |
| 461 | 48.8 | 495 | - | 1687 (172) |
| - | 48.5 | 491 | 65 | 1667 (170) |
| 444 | 47.2 | 474 | - | 1589 (162) |
| - | 47.1 | 472 | 63 | 1589 (162) |
| 429 | 45.7 | 455 | 61 | 1510 (154) |
| 415 | 44.5 | 440 | 59 | 1461 (149) |
| 401 | 43.1 | 425 | 58 | 1393 (142) |
| 388 | 41.8 | 410 | 56 | 1334 (136) |
| 375 | 40.4 | 396 | 54 | 1265 (129) |
| 363 | 39.1 | 383 | 52 | 1216 (124) |
| 352 | 37.9 | 372 | 51 | 1177 (120) |
| 341 | 36.6 | 360 | 50 | 1128 (115) |
| 331 | 35.5 | 350 | 48 | 1098 (112) |
| 321 | 34.3 | 339 | 47 | 1059 (108) |
| 311 | 33.1 | 328 | 46 | 1030 (105) |
| 302 | 32.1 | 319 | 45 | 1010 (103) |
| 293 | 30.9 | 309 | 43 | 971 (99) |
| 285 | 29.9 | 301 | - | 951 (97) |
| 277 | 28.8 | 292 | 41 | 922 (94) |
| 269 | 27.6 | 284 | 40 | 892 (91) |
| 262 | 26.6 | 276 | 39 | 873 (89) |
| 255 | 25.4 | 269 | 38 | 843 (86) |
| 248 | 24.2 | 261 | 37 | 824 (84) |
| 241 | 22.8 | 253 | 36 | 804 (82) |
| 235 | 21.7 | 247 | 35 | 785 (80) |
| 229 | 20.5 | 241 | 34 | 765 (78) |
| 223 | (18.8) | 234 | - | - |
| 217 | (17.5) | 228 | 33 | 726 (74) |
| 212 | (16.0) | 222 | - | 706 (72) |
| 207 | (15.2) | 218 | 32 | 686 (70) |
| 201 | (13.8) | 212 | 31 | 677 (69) |
| 197 | (12.7) | 207 | 30 | 657 (67) |
| 192 | (11.5) | 202 | 29 | 637 (65) |
| 187 | (10.0) | 196 | - | 618 (63) |
| 183 | (9.0) | 192 | 28 | 618 (63) |
| 179 | (8.0) | 188 | 27 | 598 (61) |
| 174 | (6.4) | 182 | - | 588 (60) |
| 170 | (5.4) | 178 | 26 | 569 (58) |
| 167 | (4.4) | 175 | - | 559 (57) |
| 163 | (3.3) | 171 | 25 | 549 (56) |
| 156 | (0.9) | 163 | - | 520 (53) |
| 149 | - | 156 | 23 | 500 (51) |
| 143 | - | 150 | 22 | 490 (50) |
| 137 | - | 143 | 21 | 461 (47) |
| 131 | - | 137 | - | 451 (46) |
| 126 | - | 132 | 20 | 431 (44) |
| 121 | - | 127 | 19 | 412 (42) |
| 116 | - | 122 | 18 | 402 (41) |
| 111 | - | 117 | 15 | 382 (39) |
Wednesday, July 13, 2011
คุณสมบัติของธาตุต่าง ๆ เมื่อผสมลงไปในเหล็ก (Composition of Elements)
คาร์บอน (Carbon) - สัญลักษณ์ทางเคมี คือ C
เป็นธาตุ ที่สำคัญที่สุด จะต้องมีผสมอยู่ในเนื้อเหล็ก มีคุณสมบัติทำให้เหล็กแข็งเพิ่มขึ้น หลังจากนำไปอบชุบ (Heat Treatment) โดยรวมตัวกับเนื้อเหล็ก เป็นสารที่เรียกว่า มาร์เทนไซต์ (Martensite) และซีเมนไตด์ (Cementite) นอกจากนั้น คาร์บอนยังสามารถรวมตัวกับเหล็ก และธาตุอื่น ๆ กลายเป็นคาร์ไบด์ (Carbide) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการสึกหรอของเหล็ก อย่างไรก็ตาม คาร์บอนจะลดความยืดหยุ่น (Elasticity) ความสามารถในการตีขึ้นรูป (Forging) และความสามารถในการเชื่อม (Welding) และไม่มีผลต่อความต้านทานการกัดกร่อน
อลูมิเนียม (Aluminium) - สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Al
เป็นธาตุ ที่นิยมใช้เป็นตัวไล่แก็สออกซิเจน และไนโตรเจน (Deoxidizer และ Denitrizer) มากที่สุด ซึ่งผสมอยู่เล็กน้อยในเหล็ก จะมีผลทำให้เนื้อละเอียดขึ้น เมื่อใช้ผสมลงในเหล็กที่จะนำไปผ่านกระบวนการอบชุบแข็ง โดยวิธีไนไตรดิ้ง (Nitriding) ทั้งนี้เนื่องจากอลูมิเนียมสามารถรวมตัวกับไนโตรเจน เป็นสารที่แข็งมาก ใช้ผสมลงในเหล็กทนความร้อนบางชนิด เพื่อให้ต้านทานต่อการตกสะเก็ด (Scale) ได้ดีขึ้น
โบรอน (Boron) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ B
ช่วยเพิ่ม ความสามารถชุบแข็งแก่เหล็ก ที่ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องจักรทั่วไป จึงทำให้ใจกลางของงานที่ทำด้วยเหล็กชุบผิวแข็ง มีความแข็งสูงขึ้น โบรอนสามารถดูดกลืนนิวตรอนได้สูง จึงนิยมเติมในเหล็กที่ใช้ทำฉากกั้นอุปกรณ์นิวเคลียร์
เบริลเลียม (Beryllium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Be
สปริง นาฬิกาซึ่งต้องต่อต้านอำนาจแม่เหล็ก และรับแรงแปรอยู่ตลอดเวลานั้น ทำจากทองแดงผสมเบริลเลียม (Beryllium-Coppers Alloys) โลหะผสมนิกเกิล-เบริลเลียม (Ni-Be Alloys) แข็งมาก ทนการกัดกร่อนได้ดี ใช้ทำเครื่องมือผ่าตัด
แคลเซียม (Calcium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Ca
แคลเซียม จะใช้ในลักษณะแคลเซียมซิลิไซด์ (CaSi) เพื่อลดออกซิเดชั่น (Deoxidation) นอกจากนั้น แคลเซียม ยังช่วยเพิ่มความต้านทานการเกิดสเกลของวัสดุที่ใช้เป็นตัวนำความร้อน
ซีเรียม (Cerium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Ce
เป็นตัวลด ออกซิเจนและกำมะถันได้ดี ช่วยปรับปรุงคุณสมบัติด้าน Hot Working ของเหล็กกล้า และปรับปรุงความต้านทานการเกิดสเกลของเหล็กทนความร้อน
โคบอลต์ (Cobalt) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Co
ไม่ทำให้ เกิดคาร์ไบด์ แต่สามารถป้องกันไม่ไห้เหล็กเกิดเนื้อหยาบที่อุณหภูมิสูง ดังนั้น จึงช่วยปรับปรุงให้เหล็กมีความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูง ด้วยเหตุนี้ จึงใช้ผสมในเหล็กขึ้นรูปงานร้อน เหล็กทนความร้อน และเหล็กไฮสปีด ธาตุโคบอลต์เมื่อได้รับรังสีนิวตรอนจะเกิดเป็น โคบอลต์ 60 ซึ่งเป็นสารกัมมันตภาพรังสีอย่างรุนแรง ดังนั้น จึงไม่ควรเติมโคบอลต์ลงในเหล็กที่ใช้ทำเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู
โครเมียม (Chromium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Cr
ทำให้ เหล็กอบชุบได้ง่ายขึ้น เพราะลดอัตราการเย็นตัววิกฤตลงอย่างมาก สามารถชุบในน้ำมันหรืออากาศได้ (Oil or Air Quenching) เพิ่มความแข็งให้เหล็ก แต่ลดความทนทานต่อแรงกระแทก (Impact) ลง โครเมียมที่ผสมในเหล็กจะรวมตัวกับคาร์บอน เป็นสารประกอบพวกคาร์ไบด์ ซึ่งแข็งมาก ดังนั้น จึงทำให้เหล็กทนทานต่อแรงเสียดสี และบริเวณที่เป็นรอยคมหรือความคมไม่ลบง่าย ทำให้เหล็กเป็นสนิมได้ยาก เพิ่มความแข็งแรงของเหล็กที่ใช้งานที่อุณหภูมิสูง เพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนของสารต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ทองแดง (Copper) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Cu
เพิ่มความ แข็งแรง ถ้ามีทองแดงผสมอยู่ในเหล็กแม้เพียงเล็กน้อย เหล็กจะไม่เกิดสนิมเมื่อใช้งานในบรรยากาศ ทองแดงจะไม่มีผลเสียต่อความสามารถในการเชื่อมของเหล็กแต่อย่างไร
แมงกานีส (Manganese) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Mn
ใช้เป็น ตัวไล่กำมะถัน (S) ซึ่งเป็นตัวที่ไม่ต้องการในเนื้อเหล็ก จะถูกกำจัดออกในขณะหลอม ทำให้เหล็กอบชุบแข็งง่ายขึ้น เนื่องจากเป็นตัวลดอัตราการเย็นตัววิกฤต (Critical Cooling Rate) ทำให้เหล็กทนทานต่อแรงดึงได้มากขึ้น เพิ่มสัมประสิทธิ์การขยายตัวของเหล็กเมื่อถูกความร้อน แต่จะลดคุณสมบัติในการเป็นตัวนำไฟฟ้า และความร้อน นอกจากนั้น แมงกานีสยังมีอิทธิพลต่อการขึ้นรูปหรือเชื่อม เหล็กกล้าคาร์บอนที่มีปริมาณแมงกานีสเพิ่มขึ้น จะทนต่อการเสียดสีได้ดีขึ้นมาก
โมลิบดีนัม (Molybdenum) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Mo
ปกติจะใช้ ผสมรวมกับธาตุอื่น ๆ เป็นตัวลดอัตราการเย็นตัววิกฤต ทำให้อบชุบง่ายขึ้น ป้องกันการเปราะขณะอบคืนตัว (Temper Brittleness) ทำให้เหล็กมีเนื้อละเอียด เพิ่มความทนทานต่อแรงดึงแก่เหล็กมากขึ้น สามารถรวมตัวกับคาร์บอนเป็นคาร์ไบด์ได้ง่ายมาก ดังนั้น จึงปรับปรุงคุณสมบัติในการตัดโลหะ (Cutting) ของเหล็กไฮสปีดได้ดีขึ้น เพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อน (Corrosion Resistance) แก่เหล็ก อย่างไรก็ตาม เหล็กที่มีโมลิบดินั่มสูงจะตีขึ้นรูปยาก
ไนโตรเจน (Nitrogen) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ N
ขณะทำไน ไตรดิ้ง (Nitriding) ไนโตรเจนจะรวมตัวกับธาตุบางชนิดในเหล็ก เกิดเป็นสารประกอบไนไตรด์ ซึ่งทำให้ผิวงานมีความแข็งสูงมาก ต้านทานการสึกหรอได้ดีเยี่ยม
นิกเกิล (Nickel) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Ni
เป็นตัว ที่เพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทกของเหล็ก ดังนั้น จึงใช้ผสมในเหล็กที่จะนำไปชุบแข็งที่ผิว ใช้ผสมกับโครเมียม ทำให้เหล็กทนทานต่อการกัดกร่อนได้ดี ไม่เป็นสนิมง่าย ทนความร้อน
ออกซิเจน (Oxigen) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ O
ออกซิเจน เป็นอันตรายต่อเหล็ก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ชนิด ส่วนผสม รูปร่าง และการกระจายตัวของสารประกอบที่เกิดจากออกซิเจนนั้น ออกซิเจนทำให้คุณสมบัติเชิงกล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความต้านทานแรงกระแทกลดลง (ตามแนวขวาง) และเปราะยิ่งขึ้น
ตะกั่ว (Lead) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Pb
เหล็กฟรี แมชชีนนิ่ง (Free-Machining Steel) มีตะกั่วผสมอยู่ประมาณ 0.20 - 0.50 % โดยตะกั่วจะเป็นอนุภาคละเอียด กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอภายในเนื้อเหล็ก เมื่อนำไปกลึง หรือตัดแต่งด้วยเครื่องมือกลทำให้ขี้กลึงขาดง่าย จึงทำให้ตัดแต่งได้ง่าย ตะกั่วไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติเชิงกลของเหล็ก
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) และกำมะถัน (Sulphur) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ P และ S ตามลำดับ
เป็นตัว ทำลายคุณสมบัติของเหล็ก แต่มักผสมอยู่ในเนื้อเหล็กโดยไม่ได้ตั้งใจ ต้องพยายามให้มีน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มักจะเรียกสารเหล่านี้ว่า สารมลทิน (Impurities) เหล็กเกรดสูงจะต้องมีฟอสฟอรัสไม่เกิน 0.03 - 0.05 % ส่วนกำมะถันจะทำให้เหล็กเกิด Red Shortness จึงแตกเปราะง่าย โดยทั่วไปจึงจำกัดปริมาณกำมะถันในเหล็กไม่เกิน 0.025 หรือ 0.03 % ยกเว้น เหล็กฟรีแมชชีนนิ่ง (Free Machining) ที่เติมกำมะถันถึง 0.30 % เพื่อให้เกิดซัลไฟด์ขนาดเล็กกระจายทั่วเนื้อเหล็ก ทำให้ขี้กลึงขาดง่าย จึงตัดแต่งด้วยเครื่องมือกลได้ง่าย
ซิลิคอน (Silicon) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Si
ซิลคอนจะ ปรากฏในเหล็กทุกชนิด เนื่องจากสินแร่เหล็กมักมีซิลิคอนผสมอยู่ด้วยเสมอ ซิลิคอนไม่ใช่โลหะ แต่มีสภาพเหมือนโลหะ ใช้เป็นตัวทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิไดซิ่ง (Oxidizing) ทำให้เหล็กแข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสีได้ดีขึ้น เพิ่มค่าแรงดึงที่จุดคราก (Yield Point) ของเหล็กให้สูงขึ้นมาก ดังนั้น จึงใช้ผสมในการทำเหล็กสปริง (Spring Steels) ช่วยทำให้เหล็กทนทานต่อการตกสะเก็ด (Scale) ที่อุณหภูมิสูงได้ดี จึงใช้ผสมในเหล็กทนความร้อน เหล็กกล้าที่มีซิลิคอนสูงจะมีเกรนหยาบ
ไทเทเนียม (Titanium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ Ti
ไทเทเนียม เป็นโลหะที่แข็งมาก ทำให้เกิดคาร์ไบด์ได้ดี เป็นธาตุผสมที่สำคัญในเหล็กสเตนเลส เพื่อป้องกันการผุกร่อนตามขอบเกรน นอกจากนั้น ไทเทเนียมยังช่วยทำให้เหล็กมีเกรนละเอียด
วาเนเดียม (Vanadium) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ V
ทำให้ เหล็กทนต่อความร้อนได้ดี เพิ่มความแข็งแรงให้กับเหล็ก โดยไม่ทำให้คุณสมบัติในการเชื่อม และการดึงเสียไป ทำให้เหล็กมีเนื้อละเอียด รวมตัวกับคาร์บอนที่เป็นคาร์ไบด์ได้ง่าย จึงทำให้ทนทานต่อการสึกกร่อน มักจะผสมในเหล็กขึ้นรูปร้อน (Hot Working Steels) และเหล็กไฮสปีด
ทังสเตน (Tungsten) สัญลักษณ์ทางเคมี คือ W
สามารถรวมตัว กับคาร์บอนเป็น คาร์ไบด์ ที่แข็งมาก จึงทำให้เหล็กที่ผสมทังสเตนมีความแข็งมาก หลังจากผ่านการอบชุบ จึงใช้ทำพวกเครื่องมือคม (Cutting Tools) ต่าง ๆ ทำให้เหล็กเหนียวขึ้น และป้องกันไม่ไห้เหล็กเกิดเนื้อหยาบ เนื่องจากการที่เกรนขยายตัว เพิ่มความทนทานต่อการเสียดสีของเหล็ก ดังนั้น จึงนิยมเติมทังสเตนในเหล็กไฮสปีด (Hi-Speed) และเหล็กที่ต้องอบชุบแข็งโดยทั่วไป
![DURALUBE[CD-SF]-01](https://byfiles.storage.live.com/y1pPhbbNVKRVUbJyJqUpbbYBLcSYCqVkaiULj2wn0YdC8J4e9hxA0n2GBJmjgNwkOxgUy0Svz3igx4/DURALUBE%5BCD-SF%5D-01.jpg?psid=1)

![G-MAX[Semi-Synthetic]-01](https://byfiles.storage.live.com/y1pP15jNSpGdn_QqrQ0nvLEFcGUYcjXg2eTc6H0fUCcO--XcG4LLHeFmKLTNyeHO-k5jBGncKPWtDc/G-MAX%5BSemi-Synthetic%5D-01.jpg?psid=1)

![SUPERHAUL PLUS[CF-4-SH]-01](https://byfiles.storage.live.com/y1pP15jNSpGdn_ctWUV-EAfLDtSfEzZkZXt86IJArmxpOBIJPykUObMYFd5CyGVlUrlUK1NUO30IMk/SUPERHAUL%20PLUS%5BCF-4-SH%5D-01.jpg?psid=1)

![SUPERHAUL[CF-4-CF-SJ]-01](https://by1.storage.live.com/items/3E40B39057FF339D%21337:FullScreen/SUPERHAUL%5BCF-4-CF-SJ%5D-01.jpg?psid=1&ck=0&ex=720)

![SYNTEC F-1 [FULLY SYNTHETIC]-01](https://byfiles.storage.live.com/y1pfV1rizHjEVxxBC5BWlSBIvKYknt4o24uOAmw6mXiEOs3eCFR6cO9fJBrei3-5lZRvKRVY2tUwwY/SYNTEC%20F-1%20%5BFULLY%20SYNTHETIC%5D-01.jpg?psid=1)
![ATF DEXRON3[Semi-Synthetic]-01](https://byfiles.storage.live.com/y1px0sEIjc5m1pCKymt-ELl5mP7ElAwVR6IRXEN9Yiwi77-2bnz6nCVx4XCfo8N7Gsw_z17cre0cqI/ATF%20DEXRON3%5BSemi-Synthetic%5D-01.jpg?psid=1)

